มาแล้ว มาอย่างคุ้มค่าการรอคอยมากๆ กับ Trek Emonda SL6 2018 ที่ปีนี้พัฒนาทั้งตัวเฟรม ได้ชุดขับ Ultegra R8000 ตัวใหม่ และสีสันที่ทำมาได้สวยทั้ง 2 สี สีแดงสด กับสีเงินเทา

ก่อนจะเริ่มลงลึกในรายละเอียดของ Emonda SL6 2018 เราลองมาทำความรู้จัก เสือหมอบของ Trek กันซักหน่อยดีกว่า มีว่ารุ่นไหน ยังไงบ้าง

Trek แบ่งลักษณะจักรยาน ตามการออกแบบออกเป็น 3 กลุ่ม (segment) คือ Madone เป็นกลุ่ม aerodynamic, Domane กลุ่ม endurance หรือรถที่เน้นขี่นาน ขี่สบาย ลุยถนนขรุขระ และ Emonda เป็นรถขึ้นเขาน้ำหนักเบามาก โดยใช้วลีที่ว่า “Choose Your Weapon” เลือกอาวุธของคุณ

 รูป Madone 9 Project One H1 รถในกลุ่ม แอร์โร่ ของ Trek

 

รูป Domane SLR รถในกลุ่ม Endurance ที่เน้นความสบายและการซับแรงสะเทือนจากพื้นถนน

 

Emonda SL6 รถในกลุ่ม All around ที่เน้นน้ำหนักเบา มีความ Stiff สูง

(สามารถเข้าไปดูรายละเอียด รุ่นอื่นๆเพิ่มเติมได้ทาง www.trekbikes.com )

ตอนที่ Trek เริ่มออกแบบรถ ซีรี่ย์ Emonda เป้าหมายของรถซีรี่ย์นี้คือ จักรยานที่เบาที่สุดในทุกช่วงราคาเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น โดยโฟกัสที่ นน.เบา, คุณภาพการปั่นโดยรวม และความ Stiff สูง สำหรับ Emonda SL6 ใช้ คาร์บอน 500 series OCLV ตัวใหม่ ที่ทำน้ำหนักเฟรมได้ที่ 1050 g

ตอนนี้ ลองมาดูในรายละเอียดตัว Emonda SL6 ที่เราจะมาเจาะลึก กันในวันนี้ครับ

เจาะลึก Trek Emonda SL6 2018

เฟรม 

เฟรม Frame SL6 เป็นเฟรมคาร์บอน Ultralight 500 Series OCLV Carbon อย่างที่บอกไปตอนแรก ซีรีย์ Emonda ในปี 2018 นี้ ได้พัฒนารายละเอียดในการออกแบบขึ้นอีก ทำให้เฟรม เบาลงไปอีก จากที่เดิมก็เบามากแล้ว แถม ยัง Stiff ขึ้นอีก

ในตารางข้างล่าง เป็นรายละเอียดของเฟรม Emonda SLR* แต่ในตัว SL เอง ก็ได้รับการปรับปรุงขึ้นด้วยเช่นกัน

ในตารางนี้ แสดงให้เห็น เฟรม Emonda SLR 2018 เทียบกับตัวเก่า น่ำหนักเฟรมลดลง 50 กรัม ซึ่งถือว่าเยอะมาก ขณะที่ ความ Stiff ในทุกจุดก็เพิ่มมากขึ้นด้วยโดยเฉพาะกะโหลก เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 8% ทำให้คุณภาพการปั่นโดยรวมที่ได้จากเฟรมตัวใหม่นี้ ดีขึ้นไปอีกระดับ ซึ่งในตัว SL6 ก็พัฒนาการออกแบบนี้ตามรุ่นพี่ด้วยเช่นกัน

Trek ใช้หลักการออกแบบเฟรมแบบ “Size-Specific Ride-Tuned performance” คือออกแบบ เฟรมแต่ล่ะไซส์แยกโดยเฉพาะ เพื่อรักษาคุณภาพการปั่นให้เหมือนกันหมดในแต่ล่ะไซส์เฟรม

เฟรมเดินสายซ่อนในเฟรมทุกเส้น ทำให้รถดูเรียบหรูเป็นระเบียบมาก

การที่เฟรมออกแบบให้ใช้เบรค Direct mount ทำให้ได้แรงเบรคที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องเพิ่มนน.เฟรมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของจุดยึดเบรค ผลที่ได้คือ รถที่เบรคมั่นใจดีเยี่ยม แถมยังเบาสุดๆ

ตะเกียบ SL6 เป็นตะเกียบ superlight ตัวเดียวกับตัว SLR นน.เบามาก เพียง 313 g

หลักอานครอบของ Emonda เป็นอีกหนึ่งเอกลักณ์การออกแบบ มี 4 แบบใหญ่ๆ คือ สั้นเยื้อง สั้นตรง ยาวเยื้อง และยาวตรง (ในรูปเป็นตัวสั้นเยื้อง) สิ่งที่สำคัญคือต้องเลือกความยาวของหลักอานให้เหมาะสมกับช่วงขาของคนปั่น รวมทั้ง เยื้องหรือไม่เยื้องด้วย การทำหลักอานสีแดงสร้างความแตกต่าง ที่เตะตาพอสมควร

ชุดขับเคลื่อนของ Trek Emonda SL6 2018

สิ่งที่ทำให้ Emonda SL6 2018 น่าสนใจมากๆ คือการได้ชุดขับ Ultegra R8000 ที่พึ่งออกใหม่ สดๆร้อนๆ ทุกชิ้น ยกเว้น ก้ามเบรค Direct Mount ของ Bontrager  จุดเด่นของชุดขับตัวนี้ คงเป็นเรื่อง ความสวยงามที่ลอกแบบมาจากรุ่นพี่ Dura-ace แถมยังรองรับเฟืองหลัง ใหญ่สุดได้ถึง 34 ฟัน(ในตีนผีขายาว) ถือว่าเป็นสวรรค์ของนักปีนเขาก็ว่าได้

จานหน้า Ultegra FCR8000

Shifter Ultegra ST-R8000 ตัวนี้ ออกแบบการเดินสายภายในใหม่หมด ทำให้การขึ้นเกียร์ทำได้เร็ว smooth และเบามือขึ้นกว่าเดิมมาก

สับจาน Ultegra FD-R8000

ตีนผีขาสั้น Ultegra RD-R8000 ออกแบบใหม่เป็นแบบ Shadow คือหลบจุดเข้าสายใว้ด้านใน เพื่อความเรียบร้อย และเหมือนมี road link ในตัว ขายาวขึ้นจากเดิม ขาสั้นรองรับได้ถึงเฟือง 30 ฟัน และขายาวรองรับเฟืองได้ถึง 34 ฟัน (ติดรถมาเป็นขาสั้น) เฟือง  CS-HG800 11 ขนาด 11-28 โซ่ Ultegra HG701

เบรค Direct Mount ของ Bontrager Speed Stop Pro

ตัวนี้เป็นชุดขับตัวเดียวที่ไม่ได้เป็นกรุ๊ป Ultegra แต่รูปลักษณ์และนน. ถือว่าดูดีและ สเปก ไม่ด้อยกว่า ultegra เลย

ล้อ

เป็นล้อ  Bontrager Paradigm TLR เป็นล้อ 6061 alloy ขอบสูง 26mm เป็นล้อ Tubelees Ready คือสามารถใส่ยาง Tubeless ได้เลยไม่ต้องแปลง มากับยาง Bontrager R2 700×25 mm

อาจจะไม่ใช่ล้อที่ “จบ”เท่าไรนัก ด้วยนน.ประมาณ 1.7 แต่ก็ถือเป็นล้อติดรถ ที่นน.ไม่มากจดเกินไป พอใช้ไปได้ระยะหนึ่ง ก่อนจะพิจรณาอัฟเกรด ตัวล้อใส่ยางได้ถึง 28c สำหรับคนที่อยากได้ ความนุ่ม และการยึดเกาะถนนที่มากขึ้น

อุปกรณ์ประกอบรถ (Components)

Trek แน่นอน จะต้องมากับ component ของ Bontrager ในตัวนี้ก็เช่นกัน

Hand Bontrager Elite VR-C ความกว้างตามไซส์รถ Stem Bontrager Pro  7 องศา ความยาวตามไซส์รถ ผ้าพันแฮนด์ Bontrager gel cork

หลักอาน Bontrager carbon seatmast cap มีระบบ Ride Tuned ที่ช่วยซับแรงกระแทกจากพื้นถนนก่อนถึงตัวนักปั่น

เบาะ Bontrager Montrose Comp

สรุป

Emonda SL6 2018 เป็นเสือหมอบคาร์บอน ตัวกลางค่อนไปทางบน ที่น่าสนใจมาก ดีไซส์สวย ชุดขับดี นน.เบา ราคาได้ ถือว่าค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว น่าจะเป็นตัวเด่น ตัวขาย ของเสือหมอบ Trek ในปีนี้

จุดเด่น

  1. เฟรมพัฒนาขึ้นจากปีที่แล้ว นน.เบาอยู่แล้ว ให้เบาและ Stiff ขึ้นอีก ทำให้คุณภาพโดยรวม ดีขึ้นอีก
  2. ได้ชุดขับตัวใหม่ Ultegra R8000 มีจุดเด่นมากมาย รองรับเฟืองได้ใหญ่ขึ้น
  3. ใช้เบรคแบบ Direct mount ทำให้แรงเบรคดีมากก
  4. ดีไซส์ งานสี เรียบแต่สวย ดูมีความใส่ใจในรายละเอียด

จุดต้องพิจรณา

  1. ข้อจำกัดของหลักอานสวม ที่มีแค่ 2 ความยาว และไม่สามารถใช้หลักอานอื่นๆได้ ทำให้ต้องได้รับการ Sizing ที่ดีก่อนซื้อเฟรมและเลือกหลักอาน
  2. เบรค Direct mount ยังมีตัวเลือกให้เลือกเปลี่ยนน้อย โดยเฉพาะคนอยากใช้ชุดขับตระกูล Sram
  3. ล้อติดรถ นน.เยอะไปนิดนึง

ใครที่เหมาะกับคันนี้

หากคุณกำลังมองหา หมอบ All around ที่นน.เบา ขึ้นเขาดี ทางเรียบได้ ในราคาคุ้มๆ จบในระดับหนึ่ง และถึงแม้จะอัฟล้อเพิ่ม ก็ยังสามารถคุมงบได้ไม่เกิดแสนไปไกลมากได้  Emonda SL6 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก

 

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง
Line id : @Letsbike (มี @ นำหน้า)

กดปุ่มเพิ่มเพื่อน ด้านล่างได้เลยครับ

เพิ่มเพื่อน

โทร 086-0009824, 02-9829166

ร้านอยู่ในเมืองทองธานีครับ
แผนที่ร้าน
Www.letsbike.co.th/map
ร้านเปิด อังคาร-อาทิตย์ 10.00-1 ทุ่ม ปิดวันจันทร์

 

เขิญชมภาพเพิ่มเติมครับ